เทรดหุ้นคืออะไร มือใหม่หัดลงทุนควรเริ่มจากตรงไหน?

การเทรดหุ้น เป็นสิ่งที่ผู้คนในช่วงวัยทำงานหรือวัยสร้างตัวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะการเทรดหุ้นคือหนึ่งในช่องทางการลงทุนที่สามารถสร้างรายได้ได้จริง แม้จะมีความเสี่ยงสูงก็ตาม

ในทุกวันนี้ ไม่เพียงแค่วัยทำงานเท่านั้นที่ให้ความสนใจกับการเทรดหุ้น แต่เด็กในวัยเรียน รวมถึงโรงเรียน ก็เริ่มให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก ๆ ได้เรียนรู้ และลองฝึกปฏิบัติการเทรดหุ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับนักเรียนนั่นเอง

จึงกล่าวได้ว่าการเทรดหุ้นคือสิ่งที่คนทุกเพศ ทุกวัย ให้ความสนใจ และควรที่จะศึกษาหลักการเบื้องต้นเองไว้บ้าง วันนี้เราจึงจะมาสรุปให้เข้าใจกับแบบง่าย ๆ ว่าการเทรดหุ้นคืออะไร  แล้วสำหรับผู้ที่สนใจการเทรดหุ้น ควรจะเริ่มต้นอย่างไร ให้เทรดหุ้นเป็น และจำกัดความเสี่ยงในการขาดทุนในช่วงเริ่มฝึกเทรดหุ้น

การเทรดหุ้นคืออะไร?

การเทรดหุ้นคือกระบวนการซื้อ และขายหุ้นของบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ เพื่อแสวงหาผลกำไรจากการซื้อขาย หรือก็คือการสร้างกำไรจากผลต่างของราาหุ้นที่คุณซื้อ กับราคาหุ้นที่คุณขายนั่นเอง

หุ้นของแต่ละองค์กร จะมีมูลค่าหรือราคาหุ้นที่ขยับขึ้นลงตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์ของบริษัท การซื้อขายหุ้น หรือการเทรดหุ้น จึงต้องอาศัยการติดตามข่าวสารในแต่ละวัน พร้อมกับติดตามแนวโน้มของหุ้นแต่ละตัวในตลาดหุ้นด้วย

สิ่งที่จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของผู้ลงทุนก็คือ ข่าวสารและประกาศต่าง ๆ ของบริษัท ผลประกอบการของบริษัท การวิเคราะห์แนวโน้มของหุ้นแต่ละตัว โดยนักเล่นหุ้นแต่ละคนก็จะมีเทคนิคและกลยุทธ์แตกต่างกันไปในการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายหุ้นในจังหวะใด

มือใหม่เริ่มต้นลงทุน ควรเริ่มจากตรงไหน?

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนกับหุ้น เพราะการเทรดหุ้นคือการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากราคาของหุ้นเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน และสามารถเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงข้ามคืน เพราะมีปัจจัยหลายที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้แต่กระแสในโซเชียลมีเดีย

ก่อนที่จะลงทุนเล่นหุ้น ผู้เริ่มลงทุนจึงควรสำรวจตัวเองให้ดีเสียก่อน ว่าอยากที่จะลงทุนในหุ้นจริงหรือเปล่า และจุดประสงค์ของการเทรดหุ้นคืออะไร 

1.สำรวจตนเองว่า ทำไมถึงอยากลงทุน

ก่อนจะกระโดดเข้าสนามการลงทุน เราอาจต้องสำรวจพื้นฐานของตัวเอง รวมถึงเป้าหมายของตัวเราก่อน เพื่อที่เราจะสามารถหารูปแบบ และวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น

  • ต้องการลงทุนและสร้างเงินเก็บ 100,000 บาทภายใน 5 ปี
  • ลงทุนเพื่อสร้าง Passive income (รายได้ที่ไม่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง) ระหว่างที่ยังทำงานประจำ
  • ลงทุนเพื่อมีเงินปันผล
  • ลงทุนเพื่อเก็บเงินก้อนให้ลูก
  • ลงทุนเพื่อเก็บออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ
  • และอีกหลากหลายเป้าหมาย (หรือเราอาจจะแบ่งการลงทุนตามแต่ละเป้าหมายก็ย่อมได้)

เปิดบัญชีหุ้น

ในการเทรดหุ้น หรือซื้อขายหุ้นนั้น เราต้องเปิดบัญชีหุ้นกับโบรกเกอร์ หรือที่เรียกกันว่า เปิดพอร์ต นั่นเอง โบรกเกอร์ คือ บริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่รับคำสั่งการเทรดหุ้นหุ้นจากผู้ลงทุน แล้วส่งไปเข้าระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้จับคู่คำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติ ชำระเงินค่าซื้อหุ้น และนำหุ้นเข้าบัญชีของผู้ลงทุน โดยบัญชีหุ้นนั้น มีสามประเภท คือ

  1. บัญชีวางเงินล่วงหน้า หรือ Cash Balance บัญชีนี้เป็นแบบตรงไปตรงมา มีเงินในบัญชีเท่าไหร่ เราก็สามารถซื้อหุ้นได้จำนวนเท่านั้น โบรกเกอร์จะหักเงินจากบัญชีในวันที่ 3 หลังจากวันที่คำสั่งซื้อได้รับการยืนยันโดยไม่นับวันหยุด (T+3) เช่นเดียวกันกับการขาย บริษัทจะโอนเงินเข้าบัญชีด้วยระยะเวลา T+3 เช่นกันครับ ยกตัวอย่างเช่น เราสั่งซื้อหุ้น A ในวันศุกร์ เงินค่าซื้อหุ้นจะถูกตัดออกจากบัญชีในวันพุธในสัปดาห์ถัดไปครับ

2. บัญชีเงินสด หรือ Cash Account ในวันที่ส่งคำสั่งซื้อ เราต้องมีเงินหรือหุ้นในบัญชีเป็นมูลค่า 20% ของหุ้นที่ต้องการจะซื้อ ซึ่งต่างกับ Cash balance ที่ต้องมีเงินสดเท่ากับมูลค่าที่ต้องการซื้อ โดยนักลงทุนต้องโอนเงินซื้อภายใน 3 วันหลังจากคำสั่งซื้อได้รับการยืนยัน ส่วนในกรณีการขาย นักลงทุนจะได้รับเงิน T+3 เช่นเดียวกับ Cash balance ครับ

3. บัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ Credit Balance Account หรือบัญชีมาร์จิ้น เป็นบัญชีสำหรับผู้ที่ต้องการมีอำนาจซื้อหุ้นมากกว่าเงินที่ตัวเองมีอยู่ โดยใช้เงินหรือหลักทรัพย์ของตัวเองส่วนหนึ่งมาวางเป็นหลักประกัน โดยนักลงทุนต้องเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินส่วนที่กู้ยืมด้วยนะครับ

“ทดลองเล่นหุ้น” ก่อนได้

สุดท้ายแล้ว หากยังไม่แน่ใจว่า ข้อมูล เทคนิค และรูปแบบการลงทุนที่เลือกจะ “ใช่” แบบที่คิดไหม และยังไม่มั่นใจ

เราสามารถ “ทดลองเล่นหุ้น” ผ่านการเปิดพอร์ตในเว็บไซด์ Click2win ซึ่งเป็นโครงการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จุดเด่นคือ

  • ทดลองซื้อ ขายหุ้น และอนุพันธ์บนมือถือคล้ายกับ Steaming ที่หลายคนใช้เทรดหุ้นจริง
  • มีเงินทุนจำลองให้พอร์ตละ 5 ล้านบาท (แต่ระบบจะลบข้อมูลพอร์ตทุก 3 เดือน)