เชื่อว่าในยุคนี้ หลายๆ คนให้ความสำคัญกับการทำประกันชีวิต เพราะถือว่าเป็นการวางแผนเพื่อความมั่นคงในอนาคต ทั้งยังสามารถช่วยดูแลคนที่เรารักหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งในปัจจุบันมีรูปแบบการทำประกันชีวิตให้เลือกหลากหลายประเภท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล มาดูกันว่าจะมีรูปแบบไหนบ้าง และแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร

- ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)
- ความคุ้มครอง: ครอบคลุมเฉพาะความเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี
- ข้อดี: เบี้ยประกันไม่สูงมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองเบื้องต้น และต้องการความคุ้มครองในระยะเวลาจำกัด
- ข้อควรพิจารณา: ประกันประเภทนี้เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว จะไม่มีเงินคืน
- ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)
- ความคุ้มครอง: ให้ความคุ้มครองตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเสียชีวิตเมื่อไร ผู้รับประโยชน์ก็จะได้รับเงิน
- ข้อดี: มีความมั่นคงสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองระยะยาว
- ข้อควรพิจารณา: เบี้ยประกันค่อนข้างสูง อาจมีส่วนที่เป็นเงินสะสม
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)
- ความคุ้มครอง: ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิต และมีส่วนสะสมทรัพย์ เมื่อครบกำหนดสัญญา หรือเสียชีวิตก่อนกำหนด ผู้เอาประกันหรือผู้รับประโยชน์จะได้รับเงินก้อนหนึ่ง
- ข้อดี: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทั้งความคุ้มครองและการออมเงิน
- ข้อควรพิจารณา: ผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่ากับการลงทุนประเภทอื่นๆ
- ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked Insurance)
- ความคุ้มครอง: เป็นการผสมผสานระหว่างประกันชีวิตและการลงทุน ผู้เอาประกันสามารถเลือกกองทุนที่ต้องการลงทุนได้
- ข้อดี: มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าประกันชีวิตแบบอื่นๆ
- ข้อควรพิจารณา: มีความเสี่ยงจากการลงทุน ผลตอบแทนไม่แน่นอน
- ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity Insurance)
- ความคุ้มครอง: จ่ายเงินเป็นรายเดือนหรือรายปีให้กับผู้เอาประกันเมื่อถึงอายุเกษียณ
- ข้อดี: เป็นการวางแผนเกษียณอายุที่มั่นคง
- ข้อควรพิจารณา: เบี้ยประกันค่อนข้างสูง
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อประกันชีวิต
- ความต้องการ: ควรดูถึงความต้องการของคุณเป็นอันดับแรก ว่าต้องการให้ความคุ้มครองแบบไหน เช่น ต้องการสะสมทรัพย์ หรือต้องการวางแผนเกษียณ
- งบประมาณ: เลือกเบี้ยประกันที่คุณสามารถจ่ายได้
- อายุและสุขภาพ: อายุและสุขภาพของคุณจะส่งผลต่อเบี้ยประกัน หากวางแผนทำประกันชีวิตตอนยังอายุน้อยๆ ก็จะช่วยให้เบี้ยฯ ถูกลง
- ความคุ้มครองเพิ่มเติม: เช่น ค่ารักษาพยาบาล การสูญเสียรายได้ ดูว่าครอบคลุมกับสิ่งที่เราต้องการหรือไม่
- บริษัทประกัน: เลือกบริษัทประกันภัยที่มีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคงทางการเงิน
การเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ส่วนบุคคล ทั้งนี้ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบแต่ละรูปแบบอย่างละเอียด เพื่อผลประโยชน์ของคุณเอง